อักษร
ภาษาญี่ปุ่น
จะเขียนด้วยตัวอักษร 3 ชนิดได้แก่
1. คันจิ (KANJI)
คือตัวอักษรจีนซึ่งญี่ปุ่นรับเข้ามาใช้โดยปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม
เป็นอักษรที่มีความหมายในตัวเอง
2. ฮิรางานะ (HIRAGANA) คือ
อักษรที่ญี่ปุ่นประดิษฐ์ขึ้นเองโดยการนำคันจิมาเขียนให้ง่ายขึ้น
ใช้เขียนคำศัพท์ทั่วไป
3. คาตากานะ (KATAKANA) คือ
อักษรที่ญี่ปุ่นประดิษฐ์ขึ้นเองโดยดัดแปลงเอามาจากส่วนใดส่วนหนึ่ง
ของอักษรคันจิ
ใช้เขียนทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ
โดยในที่นี้ ขวัญใจจะใช้
ตัวอักษร โรมัน (ROOMAJI) ซึ่งก็คือ
อักษรภาษาอังกฤษที่ใช้เขียนแทนเสียง
ในภาษาญี่ปุ่นเพื่อให้ง่ายแก่การจดจำสำหรับพื่อน
ๆ ที่เพิ่งเริ่มต้น
วิธีการออกเสียงภาษาญี่ปุ่น
1. เสียงอักษรพื้นฐาน แบ่งออกเป็น
10 วรรค วรรคละ 5 ตัว กับเศษอีก 1 ตัว
แต่เลิกใช้ไปแล้ว 5 ตัว เหลือ 46 ตัว
ดังตารางนี้
a | i | u | e | o |
ka | ki | ku | ke | ko |
sa | si | su | se | so |
ta | chi | tsu | te | to |
na | ni | nu | ne | no |
ha | hi | fu | he | ho |
ma | mi | mu | me | mo |
ya | (i) | yu | (e) | yo |
ra | (i) | ru | re | ro |
wa | (i) | (u) | (e) | o |
n | ? | ? | ? | ? |
2. เสียงขุ่น และ
เสียงกึ่งขุ่น
จะมีฐานเสียงใกล้เคียงกับเสียงพื้นฐานดังนี้
ตารางเสียงขุ่นและเสียงกึ่งขุ่น |
มีฐานเสียงใกล้กับวรรค |
|||||
เสียงขุ่น | ga | gi | gu | ge | go | ka |
? | za | ji | zu | ze | zo | sa |
? | da | ji | zu | de | do | ta |
? | ba | bi | bu | be | bo | ha |
เสียงกึ่งขุ่น | pa | pi | pu | pe | po | ha |
3. เสียงควบ คือเสียงที่เกิดจากเสียงในช่องที่ 2 สระ i ของเสียงพื้นฐาน เสียงขุ่น และเสียงกึ่งขุ่น ได้แก่ ki gi shi ji chi ni hi bi pi mi ri ผสมกับเสียง ya yu yo แล้วออกเสียงควบเป็นพยางค์เดียวกัน ดังตารางนี้
ki + ya = kya | ki + yu = kyu | ki + yo = kyo |
gi + ya = gya | gi + yu = gyu | gi + yo = gyo |
shi + ya = sha | shi + yu = shu | shi + yo = sho |
ji + ya = ja | ji + yu = ju | ji + yo = jo |
chi + ya = cha | chi + yu = chu | chi + yo = cho |
ni + ya = nya | ni + yu = nyu | ni + yo = nyo |
hi + ya = hya | hi + yu = hyu | hi + yo = hyo |
bi + ya = bya | bi + yu = byu | bi + yo = byo |
pi + ya = pya | pi + yu = pyu | pi + yo = pyo |
mi + ya = mya | mi + yu = myu | mi + yo = myo |
ri + ya = rya | ri + yu = ryu | ri + yo = ryo |
ตัวสะกด -n ออกเสียงได้ 3
อย่างตามชนิดของเสียงที่ตามมาข้างหลัง
โดยในการออกเสียงให้ทิ้งช่วงเวลา
ไว้ประมาณ 1 จังหวะ เช่น
- ออกเสียงเป็น ม เมื่อ
ตามด้วยเสียงที่หุบปากคือ m,p,b
- ออกเสียงเป็น น เมื่อ
ตามด้วยเสียงที่หุบปากคือ n,t,d,j,s
- ออกเสียงเป็น ง เมื่อ
ตามด้วยเสียงที่หุบปากคือ k,g,h,y,w
หรือ เสียงสระ
กลับไปยังหน้าสารบัญ
บทที่ 1 [บทที่ 2] [บทที่ 3] [บทที่ 4] [บทที่
5]